บ๊ะจ่างรสมือแม่
พิถีพิถันใส่ใจในในทุก ๆ รายละเอียด รวมถึงเครื่องปรุงและวัตถุดิบที่คัดพิเศษอีก 11
¡“เซียวบ๊ะจ่าง” เป็นบ๊ะจ่างสูตรลับของครอบครัวซึ่งตกทอดมานานกว่า
60 ปี เริ่มต้นจากการทำแจกผองเพื่อนและญาติมิตรในช่วงเทศกาลบ๊ะจ่าง
และพวกเขาก็ติดอกติดใจเป็นอย่างยิ่ง เลยเรียกร้องให้ทำเพิ่มขึ้นอีกในทุก ๆ ปี
¡แม้แต่กุ้งแห้งยังทำเอง
โดยใช้กุ้งคัดพิเศษจากกุ้งวังธรรมชาติ
ซึ่งหนึ่งเดือนจะสามารถจับได้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น และยังมีเครื่องปรุงและวัตถุดิบอีก
11 อย่าง
ซึ่งแต่ละอย่างล้วนคัดสรรมาอย่างดี โดยผ่านกรรมวิธีที่ต้องใช้ความละเอียดขั้นสูง
¡ทางร้านบอกว่าบ๊ะจ่างทุก ๆ ชนิดล้วนทำใหม่แบบสด ๆ
ร้อน ๆ ในแต่ละวัน ทั้งนี้ก็เพื่อรักษาคุณภาพให้สม่ำเสมอ
กินกี่ครั้งก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“บ๊ะจ่าง”
หนึ่งในเมนูยอดฮิตตลอดกาลในหมู่คนจีนในเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง
เป็นการผสมผสานที่เรียบง่ายระหว่างวัตถุดิบนานาชนิดซึ่งให้รสชาติที่เข้มข้น
แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความอบอุ่น เปรียบเสมือน Comfort Food ของชาวจีนทั่วโลก
รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีนเช่นกัน มิหนำซ้ำยังเป็นสัญลักษณ์เพื่อรำลึกถึงนักกวี “ชูหยวน” ผู้มากความสามารถ
และยังเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ มีความจงรักภักดีแห่งรัฐฉู่ ถึงแม้ว่า “บ๊ะจ่าง” จะเป็นเมนูที่เรียบง่าย
แต่ถ้าได้ลองดูมือโปรเขาทำกันจริง ๆ จะรู้เลยว่าไม่ใช่งานหมู ๆ
เพราะต้องอาศัยวัตถุดิบเกรดเอ ความชำนาญบวกกับแรงกายอันมหาศาล
รวมถึงใจรักที่อยากเห็นรอยยิ้มของทุก ๆ
คนเมื่อได้รับประทานของที่สะอาดและถูกปากถูกคอ นี่แหละคือปณิธานของ “เซียวบ๊ะจ่าง”
วันนี้ทีมงาน
Wongnai จึงถือโอกาสมาเยี่ยมเยียนแหล่งผลิต
“เซียวบ๊ะจ่าง” บ๊ะจ่างเดลิเวอรีน้องใหม่
ที่ใช้สูตรลับของครอบครัวซึ่งตกทอดมานานกว่า 60 ปี
และวันนี้ทางเจ้าของร้านใจดีเป็นพิเศษ เปิดเผยกรรมวิธีของ “เซียวบ๊ะจ่าง”
ให้เราได้เห็นเป็นบุญตา จะทำ “บ๊ะจ่าง”
ให้มีรสชาติที่ถูกปากถูกคอ
ต้องเริ่มต้นที่วัตถุดิบคุณภาพชั้นเยี่ยมซึ่งมี 11 อย่างด้วยกัน
วัตถุดิบอย่างแรกที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักของ “เซียวบ๊ะจ่าง”
คือ “กุ้งแห้ง” ทางคุณแม่เจ้าของบอกพวกเราว่า
ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นคนกินอะไรยากจึงไม่สามารถหากุ้งแห้งที่มีรสชาติที่ถูกปากถูกคอได้ตามท้องตลาด
จึงตัดสินใจตากกุ้งแห้งเองเสียเลย
ทางร้านใช้กุ้งตะกาดคัดพิเศษจากเหล่ากุ้งวังธรรมชาติ
ซึ่งหนึ่งเดือนจะสามารถจับได้เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น
เสร็จแล้วทางทีมแม่
ๆ ของ “เซียวบ๊ะจ่าง” จะนำกุ้งแห้งส่วนหนึ่งไปต้มกับเล้งหมูจนได้น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมนำมาใช้นึ่งกับ
ข้าวเหนียวเขี้ยวงูพันธุ์ดีที่ผ่านการแช่น้ำในระยะเวลาที่เหมาะสมจนสุกได้ที่
เสร็จแล้วค่อยนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากับน้ำมันหมูที่ทางร้านเจียวเองกับมือ
หัวกระเทียมเจียว หัวไชโป๊ว กุ้งแห้ง เกลือ พริกไทย น้ำตาลอีกหน่อย และ “แปะก๊วย” ที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดจนปราศจากรสขม
พอถึงจุดนี้ก็ได้เวลาห่อ
“บ๊ะจ่าง” ซึ่งทาง
“เซียวบ๊ะจ่าง” จะใช้ใบไผ่คุณภาพขนาดเท่า
ๆ กัน นำไปผ่านกรรมวิธีทำความสะอาดอย่างดี
จากนั้นนำมาพับแล้วใส่ข้าวเหนียวกับเครื่องบ๊ะจ่าง ทั้ง “เผือกกวน”
กวนเองจากเผือกนึ่งเกรดเอ “กุนเชียง” ที่ต้มแล้วค่อยทอดในเวลาที่เหมาะสมจนได้รสสัมผัสที่นุ่มนวลและรสชาติที่ละเมียดละไม
“เห็ดหอม” ที่ผ่านการแช่น้ำข้ามคืนก่อนนำไปทอดแล้วค่อยตุ๋นจนนุ่มได้ที่
ตามด้วยไข่แดงที่ได้จากไข่เค็มไชยา และหมูหมัก
ซึ่งทำจากเนื้อสันคัดพิเศษหมักพริกไทย ซีอิ๊ว และน้ำมันหอย เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เมื่อเครื่องเคราครบก็ ตักข้าวเหนียวปิดหน้าอีกหนึ่งชั้น
จากนั้นพับใบไผ่ปิดให้สนิท มัดด้วยเชือกให้มีลักษณะสามเหลี่ยม นำไปนึ่งประมาณ 45
นาทีจนสุกได้ที่
พอถึงวินาทีนี้กระเพาะของทีมงาน
Wongnai ก็คำรามโฮก
ทางคุณแม่ก็ใจดีเข้าไปอีก ให้เราชิม “บ๊ะจ่างรสดั้งเดิม”
(65 บาท) สูตรเด็ดซึ่งผ่านกรรมวิธีที่เรียกได้ว่าพิถีพิถันสุดๆ
ราวกับปรุงให้ญาติมิตรผองเพื่อนที่เป็นที่รักได้รับประทานกัน
พอพวกเรากินหมดไปหนึ่งห่อ หนึ่งในทีมงานของเราถึงกับต้องขอเบิ้ล
อีกหนึ่งคนที่ไม่ค่อยอินกับบ๊ะจ่างก็กินหมดเกลี้ยงภายในพริบตา และยังมี “บ๊ะจ่างรสพริกไทยดำ” (65 บาท) เผ็ดร้อนสะใจวัยรุ่น
และทางร้านยังมีเมนูพิเศษอย่าง “บ๊ะจ่างหมูคุโรบูตะย่าง”
(85 บาท) ที่คัดสรรหมูคุโรบูตะชั้นดี
ผ่านการปรุงรสและย่างจนกลมกล่อมได้ที่ เป็นเมนูที่ทางเรา Highly Recommend ขอยืนยันว่าต้องลอง
ด้วยความที่
“เซียวบ๊ะจ่าง” เป็นบ๊ะจ่างแบบเดลิเวอรี
ทางร้านจึงแนะนำวิธีการรับประทานให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่มีซึ้งอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว ทางร้านแนะนำให้นึ่งไฟแรงเป็นเวลา 10-15
นาที (ซึ่งนี่คือวิธีที่ดีที่สุด)
สำหรับใครที่ต้องการความสะดวกนำบ๊ะจ่างที่ยังไม่ได้แกะห่อไปจุ่มน้ำจนเปียกหมาด ๆ
แล้วค่อยนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยไฟปานกลางเป็นเวลา 2 - 3 นาที
ถึงขั้นนี้แล้วพวกเราจึงขอฟันธงว่าเลยว่าถ้าได้ลิ้มรสสักครั้งรับรองต้องมีเบิล!
การเดินทาง สำหรับใครที่อยากลิ้มรสบ๊ะจ่างคุณภาพ สามารถแอด Line @shaobajang หรือสั่งผ่าน LINE
MAN ก็ดี หรือติดต่อเบอร์ 061 406 6265 ส่วนใครที่อยากลิ้มรส
“บ๊ะจ่าง” หลากรสแบบนึ่งสด ๆ
ขอแนะนำให้ไปที่ร้าน “VT แหนมเนือง” 2 สาขา ทั้งสาขาซอยสหการประมูล และสาขาในปั้มบางจาก
ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 ครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น